ประเภทการดำน้ำ | boat dive, reef dive, drift dive, muck dive |
---|---|
ระดับการดำน้ำ | สำหรับมือใหม่ และนักดำน้ำที่มีประสบการณ์ |
ความลึก | 5 - 40 เมตร |
ทัศนวิสัยใต้น้ำ | 20 - 40 เมตร |
กระแสน้ำ | None - Strong |
อุณหภูมิน้ำ | 27-31 °C (บางปีมีน้ำเย็นจากมหาสมุทรอินเดียเข้ามามาก อาจทำให้อุณหภูมิลดต่ำลงไปได้ถึง 24 °C) |
จุดดำน้ำ | หมู่เกาะสิมิลัน, เกาะบอน, เกาะตาชัย, กองหินริเชลิว, หมู่เกาะสุรินทร์ |
ฤดูท่องเที่ยว | พ.ย. - พ.ค. |
สิ่งที่น่าสนใจ | ฉลามวาฬ, ฉลามเสือดาว, กระเบนราหู, ทากหายากตามพื้นทราย, กัลปังหาขนาดใหญ่ |
ไล่เรียงขึ้นไปทางเหนือของเกาะภูเก็ต คือแหล่งดำน้ำอันดับต้นๆ ของประเทศไทย ที่แตกต่างหลากหลายนับตั้งแต่ แนวปะการังรอบเกาะ ร่องน้ำระหว่างเกาะ เรือจม ไปจนถึงกองหินขนาดใหญ่ใต้น้ำ
เครื่องบิน ปัจจุบันมีเที่ยวบินตรงภายในประเทศจากกรุงเทพฯ เชียงใหม่ เกาะสมุย และอีกหลายจังหวัดทั่วไทย และบินตรงจากต่างประเทศอีกนับสิบประเทศ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย ฮ่องกง เกาหลีใต้ ลอนดอน แฟรงก์เฟิร์ต บาหลี ซิดนีย์ และปารีส เป็นต้น
หากท่านไม่สามารถบินตรงจากประเทศของท่านมายังภูเก็ตได้ ก็สามารถบินมายังกรุงเทพฯ แล้วเลือกเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ สู่ภูเก็ตที่มีให้เลือกกว่า 50 เที่ยวบินต่อวัน ด้วยระยะเวลาการเดินทางเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
รถยนต์ จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางสายธนบุรี-ปากท่อ (ทางหลวงหมายเลข 35) แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่านจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ข้ามสะพานสารสิน เข้าจังหวัดภูเก็ต ระยะทาง 862 กิโลเมตร
รถโดยสารประจำทาง มีรถโดยสารทั้งรถธรรมดา และรถปรับอากาศ ออกจากสถานีขนส่งสายใต้ ไปภูเก็ตทุกวัน
ไม่มีบริการรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปภูเก็ตโดยตรง หากต้องการเดินทางโดยรถไฟต้องไปลงที่สถานีรถไฟพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วต่อรถประจำทางเข้าจังหวัดภูเก็ต
โรงพยาบาล 3 แห่งในภูเก็ตที่ให้บริการห้องปรับความดันบรรยากาศสูง (Hyperbaric Chamber) ได้แก่